เนื้อหา

ชนิดของการท่องเที่ยว 

                จากมูลเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดการเดินทางการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน  ในปัจจุบัน  ระบบ

การท่องเที่ยวสากลได้จำแนกชนิดของการท่องเที่ยว  ได้ดังนี้

1.       การท่องเที่ยวเพื่อความสนุก

นักท่องเที่ยว จะใช้วันหรือเวลาหยุดงาน  เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ  เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นเพื่อพบในสิ่งแปลก ๆ และอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ  เพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงามของชนบท  เพื่อพบเห็นขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น  เพื่อสนุกสนานกับแสงสีเสียงของสถานที่นั้น ๆ และความสวยงาม

โอ่อ่าของอาคารในเมืองใหญ่  และเมืองศูนย์การค้าการท่องเที่ยว  สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุกสนานทั้งสิ้น  เช่น  ไป Shopping ที่โตเกียว,  ล่องแก่งที่นครนายก , เที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่อเมริกา , พายเรือแคนู , เล่นบันจี้จั๊ม ,  ปีนเขา  ,  ปั่นจักรยานภูเขา , ดำน้ำดูปะการัง , เล่นเจ็ตสกี , ดูหนัง ฟังเพลง   เป็นต้น

 

 



 

 

2.       การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน

นักท่องเที่ยวจะใช้วันหยุดเพื่อการพักผ่อน  โดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใด  เพื่อขจัดหรือบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ   ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานที่ผ่านมาให้หมดสิ้นไป  เพื่อเรียกกำลังกายและกำลังใจให้กลับคืนมาสำหรับการทำงานต่อไป    บางคนไปพักฟื้นเพราะการเจ็บป่วย  นักท่องเที่ยวพวกนี้จึงไปพักในที่ที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองมากที่สุด  เช่น   ช่วงปีใหม่ ,ตรุษจีน , สงกรานต์ ก็จะไปเที่ยวกับครอบครัว  สงบ และเรียบง่าย  อาจเดินทางไปหาครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัด เป็นต้น

 

 

 



 

 

3.       การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 

นักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะเรียนรู้ศิลปวิทยา  ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ ในสถาบันหรือสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง  หรือในประเทศที่มีวัฒนธรรมน่าสนใจ  เขาอาจจะไปประเทศนั้น ๆ  เพื่อศึกษาหาความรู้ในเรื่องต่าง ๆ  เช่น  ความเป็นอยู่ในแง่มนุษย์ศึกษาและสังคม  โบราณสถาน  โบราณวัตถุ  ความเจริญทางวัตถุและเทคโนโลยีปัจจุบัน  ศิลปะนานาชนิด   หรือเพื่อไปนมัสการศูนย์ศาสนาที่สำคัญ  การร่วมในงานมหกรรมงานฉลอง  งานพิธีการที่สำคัญต่าง ๆ การชมการแสดงครั้งสำคัญ ๆ เป็นต้น เช่น  ชมแสงสีเสียงที่อยุธยา ,  การพักแบบโฮมสเตย์ , การร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา เช่นการรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์, การลอยกระทงในวันลอยกระทง  , การแห่เทียนในวันเข้าพรรษา  เป็นต้น

 

 



 

 

4.       การท่องเที่ยวเพื่อการกีฬา  แบ่งเป็น

4.1    การไปชมการแข่งขัน  เช่น  ไปชมบอลโลกที่ออสเตรเลีย     ไปดูซีเกมส์ที่บรูไน

4.2    การไปเล่นกีฬา   เช่น    นักกีฬาเกือบทุกประเทศเดินทางไปแข่งกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน,   ทีมรวมดาราช่อง 3 ไปแข่งฟุตบอลกับทีมรวมนักข่าวบันเทิงที่ฉะเชิงเทรา  เป็นต้น

  

 



 

 

5.       การท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ

ที่จริงการท่องเที่ยวเพื่อประกอบธุรกิจ  ไม่น่าจะเป็นการท่องเที่ยว  เพราะขาดปัจจัยที่ว่า  การท่องเที่ยวต้องเป็นการกระทำอย่างอิสระเสรี   และมีความตั้งใจที่จะท่องเที่ยว  แต่นักธุรกิจเมื่อติดต่องานธุรกิจเสร็จแล้ว  ทุกคนก็จะเจียดเวลาที่จะท่องเที่ยวด้วย  เช่น ไปซื้อของฝาก   หรือ  กลุ่มที่ประชุมนัดหมายไปเที่ยวด้วยกันตามสถานที่ต่าง ๆ

 



 

 

6.       การท่องเที่ยวเพื่อการประชุมสัมมนา

ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ มีการจัดประชุมสัมมนากันมาก  ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง  ในวาระการประชุมจะจัดช่วงให้ผู้เข้าประชุมได้มีโอกาสท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเครียดกันด้วย

 

 



 

7.       การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา

ไปทำวิจัย  ไปศึกษาต่อ  ไปสอน  ไปดูงาน  เช่น   สมพรเอนทรานซ์ได้ที่มหาวิทยาลัยสงขลา ฯ  ,   ประทีปไปทำวิจัยปริญญาโทที่หมู่บ้านไทยโซ่ง จ . นครปฐม  ,บัณฑิตไปดูงานทอผ้าไหมที่ อ.ปักธงชัย 

จ.นครราชสีมา  เป็นต้น

 

 

 



เนื้อหารายวิชา